ในสกุลที่มีคนสูงวัยอยู่อาศัยด้วยนั้น นับว่ามีโชคมากที่ยังมีผู้อาวุโสอยู่เป็นเสาหลักของความคิดพร้อมด้วยให้ความอบอุ่นแก่บุตร พร้อมด้วยยิ่งคนชราที่อยู่กับเรานั้นท่านมีสุขภาพอนามัยพลานามัยแข็งแรง สุขภาพจิตดียิ่งถือเป็นบุญวาสนายิ่งอีก เนื่องแต่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ร่างกายของคนเราเมื่อสูงอายุมีสูงอายุขึ้นโรคภัยไข้เจ็บโดยมากเข้ามาไปหาจึงมีการไม่สบายและต้องให้การธำรงแพทย์คนชราตามกิริยาอาการป่วยไข้ไข้ต่อไป โดยนำคนแก่ไปดูแลเฝ้าไข้ที่โรงหมอทั่วไป หรือ สถานพยาบาลดูแลผู้สูงอายุ โรงหมอ ควบคุม คนชรา ศูนย์ดูแลผู้สุงอายุที่มีผู้ฉลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในอีกทางหนึ่งหากคนชราไม่มีอาการล้มหมอนนอนเสื่อแต่มีอายุมากแล้ว การเคลื่อนและสังขารร่างกายของผู้อายุย่อมไม่แข็งแรงสมบูรณ์เหมือนในอดีตก่อน ลูกหลานจึงต้องให้การดูแลผู้สูงอายุตามสมรรถนะพร้อมทั้งโอกาสให้ทั้งการคุ้มครองผู้สูงอายุที่บ้านโดยสมาชิกภายในครอบครัวเอง การจ้างพยาบาลดูแลผู้สูงอายุมาช่วยดูแลผู้สูงอายุ ที่บ้าน หรือหาคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้ในการดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุ ซึ่งอาจไม่ใช่ผู้รักษาดูแลคนชรา หรือผู้ช่วยปรนนิบัติเฝ้าผู้มีอายุโดยตรง แต่คนดูแลคนแก่นี้ควรได้รับการฝึกอบรมหรือมีความฉลาดในการอนุเคราะห์ดูแลคนสูงวัย
จะเห็นได้ว่าอารักขาผู้สูงวัยทั้งอารักษ์ที่บ้านโดยขาด้านในตระกูล การหาคนเลี้ยงดูผู้สูงอายุการจ้างพยาบาลเหลียวแลผู้ใหญ่มาช่วยรับใช้ที่บ้าน หรือในส่วนการคุ้มครองโดยคลินิกสนใจคนสูงอายุ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งจะมีเจ้าพนักงานของสถานพยาบาล ซึ่งอาจเป็นนางพยาบาลดูแลผู้สูงอายุ ผู้ช่วยพยาบาลดูแลผู้สูงอายุ ที่เรียนจบและมีคุณวุฒิการศึกษารับรอง หรือคนดูแลผู้สูงอายุที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นพิเศษ