การบันทึกวิดีโอนับว่าเป็นฟังก์ชั่นขั้นต้นที่สุดเพราะด้วย กล้องบันทึกวิดีโอในรถ ซึ่งความละเอียดของไฟล์วิดีโอนั้นก็ผิดแผกแตกต่างกันออกไปตามรุ่น กับแต่ละแบรนด์ ยุคปัจจุบันกล้องติดรถยนต์สามารถบันทึกวิดีโอได้ความคมชัดแบบ HD ได้ด้วย บางคนอาจคิดไม่ออกว่า HD คืออย่างไร HD นั้นย่อมาจากคำว่า High-Definition นั้น เป็นรูปแบบหรือหลักเกณฑ์ใหม่เพราะว่าการบอกสัญญาณภาพที่มีความละเอียดสูงในระดับ 720p/1080p/1080i ซึ่งให้ภาพที่คมชัดพร้อมทั้งมีรายละเอียดปลีกย่อยสูงกว่าดีวีดีทั่วไป ระบบการส่งสัญญาณภาพแบบ HD ในระดับ 1080p จำเป็นใช้สายแบบ HDMI แต่ ส่วนสาย Component ทั่วไปจะรองรับเฉพาะที่ความละเอียด 720p และ 1080i ขนาดนั้น ส่วน HDTV เป็น TV ที่รับความละเอียดระดับ Hi-Def ให้ภาพคมชัดมากมากกว่าปกตินั้นเอง

สิ่งที่ควรเช็ก ก่อนเลือกสรรซื้อกล้องติดรถยนต์ คือ เช็กระบบความคมชัดของกล้อง อย่างแรกมาดูเรื่องความคมชัดของวิดีโอจากกล้อง ไฟล์ที่อัดมามีคุณภาพชั้นไหน ที่เราขอแนะแนวเลยคืออัดได้ Full HD 1080p ก็เพียงพอแล้ว แต่อีกสิ่งที่อยากบอกช่องทางให้ดูคือค่า FPS (Frame Per Second) ที่ตัวกล้องอัดได้ ปกติแล้วจะอยู่ที่ 24-30 FPS ครับ แต่ถ้าสูงกว่า 30 FPS นี้ถือว่าลำดับขั้นภาพจะเนียนตามาก

รองความจุของเมมโมรี่เท่าใด ซึ่งกล้องแต่ละตัวก็รองชนิดเมมโมรี่พร้อมทั้งปริมาตรขนาดได้ไม่เสมอกันนั้นเอง

เลือกเฟ้นตามการใช้งานจริง กล้องติดรถยนต์มีหลายรุ่น ตั้งแต่มูลค่าไม่กี่พันไปจวบจนถึงหลายหมื่น จึงต้องเลือกตามคุณค่าที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงนั้นเอง อย่างบางรุ่นมีฟังก์ชันมาก สนนราคาสูง หากมีงบถึงก็ซื้อได้ตามที่สะดวก แต่หากพิจารณาแล้ว บางรุ่นที่คุณสมบัติพอ ๆ กัน ก็อาจจะมีแบบที่ราคาถูกกว่า หรือว่ามีบางคุณลักษณะที่เราไม่จำเป็นต้องใช้ ก็เลือกซื้อรุ่นที่มีฟังก์ชันน้อยลงมาหน่อย ความถูกลงนั้นเอง

การคัดใช้และการวางผังจัดตั้งชั้นวางอุตสาหกรรม  จึงมีเหตุสำคัญๆ หลายด้าน ดังนี้

1.ชนิดของสินค้าที่จะจัดเก็บ สินค้าจะต้องการจัดเก็บบนชั้นวางเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สุดในการกำหนดอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ที่จะเลือกเฟ้นมาใช้ในการเรียกเก็บ ชนิดผลิตภัณฑ์ ขนาดสินค้า และน้ำหนักของผลิตภัณฑ์ เป็นตัวกำหนดว่าจะใช้แผ่นพาเลทขนาดใดและประเภทใดมารองรับ และแต่ละพาเลทจะมีน้ำหนักสูงสุดเท่าไร ประเภทสินค้ายังเป็นตัวกำหนดในการเลือกใช้ชั้นวางชนิดต่างๆ ด้วย เช่น สินค้าที่จะต้องเข้าก่อน-ออกก่อน หรือเข้าก่อน-ออกทีหลัง เป็นของซื้อของขายชนิดเดียวกันหรือผลิตภัณฑ์หลายหลากชนิด เป็นสินค้าที่ต้องเบิกจ่ายตลอดเวลาหรือไม่ ปริมาณผลิตภัณฑ์มีมากน้อยแค่ไหน เป็นอาทิ

2.ประเภทและขนาดของพาเลท จะต้องคัดให้สามารถรับน้ำหนักสูงสุดของสินค้าที่จะกองบนพาเลทได้ และต้องคำนึงถึงการวางบนชั้นวางว่าจะวางทางแนวกว้างหรือแนวแคบ อย่างและขนาดของพาเลทจะเป็นตัวกำหนดว่าชั้นวางที่จะติดตั้งควรจะมีความกว้างและความลึกเท่าไร ขณะเดียวกันก็เป็นตัวกำหนดรถยกที่จะใช้ว่าต้องรับความหนักเบาเท่าไร ความกว้างของงา ยกได้สูงเท่าไร จำนวนพาเลทจะเป็นตัวกำหนดว่าควรจะคัดเลือกชั้นวางแบบชุกเพียงใด และมีความสูงกี่ระดับชั้น

3.พื้นที่ของโกดัง ลักษณะพื้นที่ของคลังสินค้าก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องวิเคราะห์ในการขณะเลือกชั้นวาง ทั้งขนาดของทางเข้าออก ขนาดประตู ความสูงของเพดาน ขนาดความกว้างขวางความยาว ซึ่งเหตุเหล่านี้ล้วนเป็นข้อจำกัดที่การติดตั้งชั้นวาง และจะต้องคำนึงถึงความประสงค์ในการจัดเก็บ และการเข้าทำงานของรถยกที่จะวิ่งเข้าออกเวลาเบิกจ่ายด้วย

4.ชนิดรถยกที่จะใช้ รถยกจะต้องมีความสามารถในการยกน้ำหนัก (Load Capacity) เพียงพอกับน้ำหนักสูงสุดของของซื้อของขายบนพาเลท ขณะเดียวกันต้องสามารถยกสูงได้ถึงชั้นวางสูงสุดที่จะจัดตั้ง ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งที่ต้องระวังก็คือต้องคำนึงถึงขนาดของตัวรถว่าสามารถกลับตัวเพื่อหันหน้าเข้าชั้นวางในขณะยกสินค้าขึ้นเก็บหรือเบิกจ่ายได้ด้วย

5.ระบบการหมุนเวียนของสินค้า หากของซื้อของขายมีจำนวนมากและหมุนเวียนเร็ว หมายความว่าต้องมีการนำเข้าและเบิกจ่ายถี่มาก รถยกต้องมีขีดความสามารถเฉพาะในการทำงานหนักได้ตลอดเวลา หรือควรใช้ชั้นวางที่มีประเภทกึ่งอัตโนมัติหรืออัตโนมัติ ที่ดูแลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ชนิดสินค้าต้องหมุนเวียนแบบ FIFO หรือ LIFO ก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเลือกชั้นวางต่างกัน เช่น LIFO อาจเลือกชั้นวางแบบ Drive-in หรือแบบ Push Back แต่ถ้าต้องการแบบ FIFO อาจเลือกคัดชั้นวางแบบ Selective หรือแบบ Flow เป็นต้น